Edutainment
Edutainment เกิดจากการสนธิคำศัพท์ 2 คำด้วยกัน คือ
คำว่า Education สาระ
ความรู้ กับคำว่า Entertainment
ความบันเทิง เกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ว่า Edutainment ซึ่งมีความหมายว่าการได้รับสาระความรู้ด้วยรูปแบบความบันเทิง
เพราะการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สื่อในกลุ่มของ Edutainment แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
1.สื่อประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ วีซีดี ดีวีดี หรืออินเตอร์เน็ต
2.สื่อประเภทอุปกรณ์การเรียนรู้ เช่น เกมเพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ
3.สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ เช่น นิทาน ฯลฯ
การเลือกสื่อ Edutainment ให้เหมาะสม
1. เลือกให้เหมาะกับวัย
สื่อการเรียนการสอนมีเนื้อหาสาระและวิธีการนำเสนอที่จะเหมาะสม
สำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย
2. เนื้อหามีประโยชน์ นอกจากการดูคำอธิบายและวิธีการใช้งานที่บอกอย่างละเอียดแล้ว เช่น
หากเป็นลักษณะของการ์ตูนประเภทวีซีดี ควรมีเนื้อเรื่องที่เหมาะสม แฝงด้วยคุณธรรม
มีวิธีคิดและวิธีที่แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เหมาะกับวัย
3. มีเทคนิคช่วยจำ เป็นวัยที่กำลังเก็บสะสมคลังคำให้แก่ตัวเอง เพราะฉะนั้นการเลือกสื่อ
Edutainment เช่นการสอนสองภาษาผ่านเสียงเพลง
ก็จะช่วยให้สามารถจดจำคำต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
4. ปลอดภัยทั้งเนื้อหาและวัสดุ เริ่มตั้งแต่เนื้อหาที่เด็กจะได้รับนั้น
ต้องไม่สื่อและแฝงไปด้วยเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ เรื่องเพศ และความรุนแรง ที่จะทำลายความไร้เดียงสาของเด็กเร็วเกินไป
รวมไปถึงวัสดุของสื่อ
ประเภทเกมกระต้นพัฒนาการหรือของเล่นที่เด็กสัมผัสโดยตรงต้องปลอดภัย
ซึ่งสังเกตได้จากเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม)
5. ราคาไม่แพงเกินไป เด็ก ๆ แต่ละช่วงวัยเรียนรู้แตกต่างกัน สื่อสำหรับเด็กวัย
2 ปี อาจจะง่ายเกินไปแล้วเมื่ออายุ 4 ปี
การซื้อด้วยราคาที่แพงแต่ใช้งานไม่คุ้มค่ากับราคา
6.ใช้สื่อกับลูกอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมและศึกษาเนื้อเรื่องและประโยชน์ของสื่อแต่ละชนิดอย่างถี่ถ้วน
7.กำหนดเวลาดูและใช้งาน สื่อ Edutainment
ที่เป็นประเภทสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งโทรทัศน์
วิทยุ หรืออินเตอร์เน็ต ควรกำหนดให้เด็กดูวันละครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว
การใช้สื่อ Edutainment
เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการเรียนรู้ที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง
ๆ สำหรับเด็ก
ที่มารูปภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น